วงหมอลำ คำผุนร่วมมิตร คิวยาวถึงปี 64

วงหมอลำ คำผุนร่วมมิตร คิวยาวถึงปี 64

วงหมอลำ คำผุนร่วมมิตร คิวยาวถึงปี 64 ในสถานการณ์ ที่เศรษฐกิจซบเซา วงลูกทุ่งหมอลำหลายวง ได้ประสบปัญหา กับการที่คนดูลดลง แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ คำผุนร่วมมิตร เลย เป็นวงหมอลำที่ปรับตัวเข้าสู่ยุคสมัย จนกลายเป็นขวัญใจวัยรุ่น และการันตีความปัง ด้วยคิวงาน ที่ยาว ไปจนถึงปี 2564

ในช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่สิ้นสุดฤดูทำนา เป็นฤดูกาลที่ ทุก ๆ วงลูกทุ่งหมอลำต่าง ๆ จะเปิดวงกัน และรับงานเดินสายรับงานต่าง ๆ ไปพร้อมกับทีมงาน ที่หลังไหลกัน กลับเข้าวงลูกทุ่ง หลับฤดูการเก็บเกี่ยว หลังฤดูการทำนา และวง คำผุนร่วมมิตร วงหมอลำเก่าแก่อายุกว่า 60 ปี ก็เล่นเดียวกัน

ได้จัดการแสดง การเปิดวงที่โรงเรียน โนนสะอาดวิทยาคาร ตำบล โนนสะอาด อำเภอแวงใหญ่ ในจังหวัดขอนแก่น บ้านเกิดของของหัวหน้าวงนั่นเอง คือ นายวิฑูลย์ ผานคำ  วัย 50 ปี

นาย วิฑูลย์ ผานคำ ( หัวหน้าวง )

นาย วิทูลย์ ( หัวหน้าวง ) ได้กล่าวว่า ตนเองนั้น เป็นรุ่นที่สามของวง เริ่มต้นจาก คุณทวดได้ ขี่ม้า ขี่เกวียน ไปเร่แสดงสด โดยใช้แคน ในการเป็นเครื่องดนตรีชิ้นเดียว

ต่อมาคุณพ่อ คำผุน ผานคำ มีรถยนต์หนึ่งคัน กับตะเกียงเจ้าพายุ แทนเครื่องขยายเสียง จนได้เริ่มพัฒนา และได้มีเครื่องเสียง กับฮอร์น เป็นเครื่องดนตรี เมื่อ 30 ปีที่แล้ว และตระเวร เล่นตามเวทีหมอลำประจำหมู่บ้านต่าง ๆ

จนเมื่อปี พ.ศ. 2537 คุณพ่อ คำผุน ได้เสียชีวิตลง ตนเองจึงต้องลาออก จากงานประจำ มาดูแลวงต่อคำผุน จากคุณพ่อ ในช่วงนั้น ก็ได้เกิดวิกฤตอย่างหนักขึ้น เนื่องจากเจ้าภาพ ไม่มั่นใจว่า จะมีคน หรือรุ่นลูกมาสานต่อวงหรือไม่ จึงไม่จ้างงาน

จากเมื่อก่อน ที่มีงานจ้างเข้ามา กว่าร้อยงานต่อปีนั้น ได้เหลือเพียงแค่ 20 งานต่อปี เท่านั้นเอง ตนและน้อง ๆ ในวง จึงต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น ในวงคำผุนร่วมใจนั้น ให้กลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นการ ไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เจ้าอาวาสในวัด และเจ้าภาพอื่น ๆ รวมไปถึง การทำให้ดนตรีในวงสนุกขึ้น ทันสมัย ตอบโจทย์ให้เข้ากับวัยรุ่น

เมื่อก่อนนั้น เป็นเพียงการลำเพลิน หรือการลำเรื่องต่อกลอนกัน แต่ในปัจจุบัน หมอลำปรับได้ตัวให้มากขึ้น และเอาใจผู้ชม ทุกเพศ ทุกวัย มีทั้งตลก เต้ย และคอนเสิร์ต สนุกสนาน ให้วัยรุ่นได้เต้น ได้สนุกไปด้วย ท่ามกลางคนดูกว่า สามพันคน ต่อคืน

บรรยากาศการแสดง วงคำผุนร่วมมิตร

เพราะปัจจุบันนี้ คนชอบความสนุกสนาน คำผุนร่วมมิตร เป็นวงแรกที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ เพลงค่ายใหญ่ๆ ดัง ๆ มาร้อง สลับกับเพลง ของวงที่ได้แต่งขึ้นมาเองบ้าง ซึ่งจุดเด่นของวงคือ เพลงสนุกถึงใจ ดนตรีแน่น จังหวะเป๊ะ จนที่ได้รับฉายา เต้ยโสตาย มานั่นเองค่ะ

ส่วนเรื่องโซเชียล ได้เปิดเฟซบุ๊ก ไลฟ์สดเอง ถ่ายลงเพจ ท็อปไลน์ มิวสิค ต้นสังกัดของวง เพื่อให้คนดูที่ชื่นชอบ ได้แชร์ต่อ ๆ กันไป ถือว่าเป็นการตลาดอีกอย่างหนึ่ง และเป็นการประชาสัมพันธ์ ในอีกช่องทางหนึ่ง

ในการเดินสาย ทำการแสดงสด ตามสถานที่ต่าง ๆไม่ว่าจะเป็น งานวัด งานบุญ งานประจำปีต่าง ๆ ก็จะมีการเปิดสปอร์ตไลท์ ส่องขึ้นฟ้า เพื่อให้ชาวบ้านในละแวกนั้น ได้รู้ว่ามีวงหมอลำมา ทำการแสดงในคืนนั้น หรือที่เข้าใจกัน ในหมู่คอหมอลำว่า ไฟล่อกระเทย

ไฟล่อกระเทย

ช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา รายได้ชาวบ้าน ลดน้อยลง แต่วงคำผุนร่วมมิตร ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ถึงแม้จะเป็นวงใหญ่ และมีสมาชิกในวง มากกว่าสองร้อยคน แต่นายวิฑูลย์ ก็จะลงทุนให้พอดีกับงาน ที่ถูกจ้าง และไม่ใช้งบประมาณมากจนเกินตัว นั่นเอง

ซึ่งรายได้หลักนั้น จะมาจากการปิดวิก หมายถึง การเล่นหมอลำแบบเก็บตั๋วเอง แต่จะมีความเสี่ยงมาก หากวันไหน เกิดฝนตก พายุลมแรง หรือคนมารับชมไม่มาก ก็อาจขาดทุนได้ แต่ถ้าหาก มีเจ้าภาพมาจ้างไปเล่น วงก็ไม่ต้องรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น อย่างที่บอกไปข้างต้นนั้น เพราะเจ้าภาพ อาจจะเปิดให้ชาวบ้าน รับชมฟรี หรือเก็บเงินค่าตั๋วเข้ารับชมเอง ซึ่งวงก็จะมีรายได้เพราะไม่ต้องรับความเสี่ยงนี้ เพียงแค่ดำเนินการแสดงตามที่ได้รับว่าจ้าง

วงมีงานเข้ามา ประมาณ 140 กว่าคิว และยังมีงานจ้าง ให้ไปแสดงในงานเทศกาล ยิงยาวไปจนถึง ปี 2564 ส่วนรายได้พิเศษ ก็จะมาจากสปอนเซอร์ หรือการโฆษณาสินค้า ที่อยู่บนเวที และอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ พวงมาลัย พวงมาลัยถือเป็นรายได้พิเศษส่วนตัว ของนักร้อง และนักแสดง ที่มีแฟนคลับที่ชื่นชอบส่วนตัวนั่นเอง

อ้างอิงบทความ : Voice online
สนับสนุนโดย : สล็อตออนไลน์
ติดตามข่าวสารได้ที่ : หมอลำ